การออกกำลังกาย ( Physical Exercise )
|
|
ประโยชน์ของการออกกำลังกาย 1. ได้ความสมบูรณ์ แข็งแรง ของสุขภาพร่างกาย 2. ได้ความสมบูรณ์ แข็งแรง ของมวลกระดูก กล้ามเนื้อ และข้อกระดูกที่ไม่ติดขัด 3. ได้ความสมดุลของน้ำหนักตัว 4. เสริมระบบภูมิต้านทานของร่างกายให้เข้มแข็ง 5. ส่งเสริมการเจริญเติบโตในวัยเด็ก 6. ลด Cortisol ป้องกันโรคอ้วน ลงพุง 7. ส่งเสริมสุขภาพจิต และป้องกันโรคจิตซึมเศร้า 8. ป้องกันและรักษา โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือด ก่อนออกกำลังกายทุกครั้งควรอบอุ่นร่างกาย(Worm up) (Cooldown) ประมาณ 10 นาที และหลังจากการออกกำลังกายแล้วควรมีการผ่อนคลายร่างกายก่อนหยุดประมาณ 10 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ฟื้นตัว และมีการสะสมพลังงาน (Glycogen) เพิ่มเติมจากส่วนที่ได้ใช้ไปแล้ว ทั้งในกล้ามเนื้อและในตับ ในช่วงเวลา 30 นาทีหลังออกกำลังกาย ก่อนทำกิจกรรมอื่นใดควรดื่มของเหลวที่ประกอบด้วย Carbohydrate และProtein ในอัตราส่วน 4:1 ซึ่งได้แก่ นมพร่องมันเนยนั่นเอง การฝึกหายใจลึก ๆ ในขณะออกกำลังกาย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอดได้อย่างมาก ช่วยให้หัวใจทำงานน้อยลงในการส่ง Oxygen ไปให้กล้ามเนื้อ จึงเป็นการพัฒนาศักยภาพของปอดและหัวใจโดยตรง การออกกำลังแบบ Aerobic (Dynamic) เช่นการวิ่งเหยาะ ๆ ด้วยความเร็วสม่ำเสมอ ความดันเลือดในขณะหัวใจคลายตัว (Diastolic blood pressure) จะลดลงในขณะออกกำลังกาย แต่การออกกำลังกายแบบ Anaerobic (static) เช่น การยกน้ำหนัก จะทำให้ความดันเลือดในขณะหัวใจบีบตัว (Systolic blood pressure) ในขณะออกกำลังกาย |
|
|
การทำงานของกล้ามเนื้อในลักษณะงานที่แตกต่างกันจะใช้พลังงานจากแหล่งต่าง ๆ ดังนี้ 1. ใช้ ATP และ Creatine phosphate ที่กล้ามเนื้อสะสมไว้ในปริมาณที่ต่ำมากจะถูกใช้หมดไปภายใน 20 วินาทีของการทำงาน 2. ใช้ Glycogen ที่สะสมในกล้ามเนื้อและในตับ ด้วยกระบวนการเผาผลานพลังงานที่แตกต่างกันตามลักษณะงานคือ 2.1 เมื่อมีการใช้พลังงาน เร็ว และ แรง จะมีการย่อยสลาย Glycogen ด้วยกระบวนกาน Glycolysis ที่ไม่ใช้ Oxygen จะให้พลังงานได้ 2 นาที เกิดกรด Lactic สะสมในกล้ามเนื้อทำให้เกิดอาการ เมื่อย ล้า 2.2 เมื่อมีอาการใช้พลังงานปริมาณไม่สูงแต่ต่อเนื่อง เช่น การออกกำลังกายแบบ aerobic การจ๊อกกิ้ง การเดินเร็ว glycogen จะถูกย่อยสลายให้พลังงานด้วย ขบวนการที่ใช้ oxygen ให้พลังงานได้มากกว่า นานกว่า และไม่เกิดการสะสมของกรด Lactic ในกล้ามเนื้อ จึงเกิดอาการเมื่อย ล้า น้อยกว่า 3. ใช้สารไขมัน (Free fatty acid และ Triglyceride) ที่ให้พลังงานมากกว่าสารกลุ่ม Carbohydrate กว่า 10 เท่า ในการให้พลังงานอย่างช้า ๆ |
Gluconeogenesis คือ ขบวนการสร้าง Glucose จากสารที่ไม่ใช่ Carbohydrate carbon substrate เช่น Lactate Glycerol และ Glycogenic amino acids ส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ตับ ส่วนน้อยเกิดขึ้นที่ Cortex ของไต และจะเกิดขึ้นในสภาวะ 1. การงดอาหาร 2. การอดอาหาร 3. การออกกำลังกายอย่างหนัก 4. มีการดูดซับพลังงานไป |
|